วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

สองตา ส่องเห็น ด้วยพระปรีชาญาน มิใช่เกิดบังเอิญอย่างบอดใบ้


สองตา ส่องเห็น ด้วยพระปรีชาญาณ มิใช่บังเอิญเกิดอย่างบอดใบ้ 1
แปลและเรียบเรียง อิบินอุม 2
                                ทราบไหมว่า ลูกกลมๆที่ถูกวางอยู่ในเบ้าตาของท่านนั้น มันถูกแทรกลงในกะโหลกศีรษะของมนุษย์ และมันถูกห้อมล้อมด้วยเนื้อเยื่อพิเศษที่ได้รับการป้องกันด้วยเนื้อเยื่อไขมัน พร้อมกันนี้มันถูกป้องกัน (ถูกยึดอย่างมั่นคง-ผู้แปล) ด้วยจมูก กลุ่มของกล้ามเนื้อ และโหนกแก้มชั้นบน

 


ผู้ทรงทำให้ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมันให้ดีงาม(พระองค์ทรงจัดวางทุกสิ่งให้อยู่ในตำแหน่งของมัน)และพระองค์ทรงเริ่มการสร้างมนุษย์จากดิน(คืออดัม บิดาของมนุษย์) แล้วทรงให้การสืบตระกูล ของมนุษย์มาจากน้ำ(อสุจิ)อันไร้ค่า แล้วทรงทำให้เขามีสัดส่วนที่สมบูรณ์(ขณะที่เขาอยู่ในครรภ์มารดาของเขา) และทรงวิญญาณของพระองค์เข้าไปในเขาและทรงให้พวกเจ้าได้ยินและได้เห็นและให้มีจิตใจ(สติปัญญา) ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าขอบคุณ 3
     
นอกจากจะมีระบบการป้องกันภัยอย่างเยี่ยมยอดแล้ว สองตาของเรายังถูกวางอยู่ในตำแหน่งบนร่างกายภายใต้วิสัยที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด สมมติ ถ้าเกิดสองตาของเรา ถูกวางอยู่ตำแหน่งอื่นบนใบหน้าแล้ว และถ้าสมมติ มันเกิดอยู่ใต้จมูกของเรา อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ? เห็นได้ชัดที่สุด มันทำให้ใบหน้าของเราดูผิดปกติ หรืออาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อตาของเราได้ และสำคัญที่สุดคือ ทำให้วิสัยการมองเห็นวัตถุลดต่ำกว่าสภาพปกติโดยทันที
                ในความเป็นจริงแล้ว สองตาของเรา จัดเป็นอวัยวะที่ดึงดูดความสนใจแก่ผู้คนได้ ทั้งในด้านตำแหน่งที่ตั้งและรูปร่างสมมาตรของมันซึ่งจัดเป็นความมหัศจรรย์ทางด้านสุนทรียศาสตร์เลยทีเดียว กล่าวคือระยะห่างระหว่างตาสองข้างมีความกว้างเท่ากับตาข้างเดียว ถ้าเกิดว่า ระยะห่างนี้ เกิดกว้างหรือแคบไป ทำให้ระบบใบหน้าของเราแลดูเสียสมดุลโดยปริยาย
                ความสมบูรณ์ของดวงตา และระบบอวัยวะอื่นๆของร่างกายมนุษย์เป็นหลักฐานยืนยันการสร้างของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง ดังที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรัสว่า
                อัลลอฮฺผู้ทรงทำให้แผ่นดินนี้เป็นที่พำนักแก่พวกเจ้า และชั้นฟ้าเป็นเพดานมั่นคง และทรงทำให้พวกเจ้าเป็นรูปร่าง และทรงทำให้รูปร่างของพวกเจ้าสวยงาม และทรงทำให้ปัจจัยยังชีพจากสิ่งที่ดีๆแก่พวกเจ้า นั้นคืออัลลอฮฺ พระเจ้าของเจ้า ดังนั้นอัลลอฮฺพระเจ้าแห่งสากลโลกทรงจำเริญยิ่ง4
                ถึงกระนั้นก็ตาม นักวิวัฒนาการนิยมได้ อธิบายการเกิดของดวงตาภายใต้กระบวนการเปลี่ยนแปลงค่อยเป็นค่อยไป อย่างไร้ทิศทาง จนกลายเป็นอวัยวะที่มีโครงสร้างสมบูรณ์แบบ อย่างไร้ที่ติ แล้วถ้าสมมติมันเกิดภายใต้สถานการณ์ความบังเอิญอย่างมั่วสั้วแล้ว มันอาจจะต้องใช้เวลาเป็นล้านๆปีหรือมากกว่านั้น (ซึ่งเรามีเวลาเพียงพอขนาดนั้นเลยหรือ-ผู้แปล) และในช่วงระหว่าง นั้นก็อาจจะเกิดเป็นดวงตาที่แปลกประหลาดก่อนที่จะบรรลุผลสำเร็จ (เพราะเป็นไปไม่ได้เลยว่ามันอาจเกิดอย่างสมบูรณ์เลย เพียงครั้งเดียว หรือไม่มีความผิดพลาดเลย-ผู้แปล) ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเกิดดวงตาที่เท้า หรือหลังของมนุษย์ ดังที่ปรากฏในอวัยวะของแมลงบางชนิด หรือไม่ดวงตาที่เกิดขึ้นก็บอดสนิทเนื่องจากไม่มีระบบต่อมขับน้ำตา  หรือแสงไม่สามารถส่องผ่านแก้วตาได้เนื่องจากมันไม่มีความโปร่งใสซึ่งจะทำให้เราไม่สามารถมองเห็นได้ หรือเราไม่สามารถมองเห็นสิ่งของเล็กๆ ทั้งๆที่มีแสงเนื่องจากรูม่านตายังไม่ได้อุบัติมา เหล่านั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความแปลกประหลาดที่อาจจะเกิดขึ้น และนี้ยังไม่กล่าวถึงองค์ประกอบที่ซับซ้อนอื่นๆและหน้าที่ต่างๆของมันอีกมากมาย (ถ้าเกิดโดยบังเอิญจริงแล้ว-ผู้แปล) ยังมีอีกหลายจุด ที่อาจจะเกิดความบกพร่องและสับสนภายใต้น้ำมือของความบังเอิญ
                และเป็นความจริงอีกเช่นกัน ที่เราไม่สามารถพบซากฟอสซิลสิ่งมีชีวิต ที่มีระบบการมองเห็น(และระบบอื่นๆ)ที่ประหลาด ฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์(ไม่ว่าจะเป็นฟอสซิลของสัตว์ใด ในช่วงเวลาใดก็ตาม-ผู้แปล) ผลสรุปที่สมเหตุสมผลที่สุด ก็คือ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดย่อมมีผู้สร้าง และมัน(ทฤษฎีวิวัฒนาการและนักดาร์วินนิยม) ก็ย่อมเป็นผู้โฉดเขลาทั้งยังมดเท็จอีกด้วย
               
           



1.                  1. Harun Yahya, "Atlas of Creation2", GLOBAL PUBLISHING, October 2008.p.36-37
2.                   2.  สมาชิกกลุ่มอัซซาบิกูน เว็บไซต์   www.อิสลาม.net         www.antirafidah.com
3.   อัลกุรอานแปลไทยโดยนักเรียนเก่าอาหรับ. บท อัซซาจาดะฮฺ . บท 7-9
4.  อัลกุรอานแปลไทยโดยนักเรียนเก่าอาหรับ. บท กอฟีร . บท 64

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น