แปลและเรียบเรียง อิบินอุม 2
วิสัจชนา ฟอสซิลมีความหมายกว้างๆ อย่างหลากหลาย โดยหนึ่งในความหมายของฟอสซิล(Fossils) ก็คือ ซากหลงเหลือของสิ่งมีชีวิตที่เคยดำรงชีพมาตั้งแต่อดีตกาล โดยมันถูกเก็บรักษาอย่างดีภายใต้กระบวนการทางธรรมชาติ (ด้วยความประสงค์ของพระเจ้า-ผู้แปล) จนสามารถให้คนรุ่นหลังได้เชยชมกัน (และรับทราบข้อเท็จจริงหลายประการ-ผู้แปล) ฟอสซิลที่ถูกค้นพบนี้เป็นของสิ่งมีชีวิตบางชนิดในระบบนิเวศทั่วไปบนพื้นพิภพเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันการมีชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้นๆในอดีตกาล (ต่อมาถูกรู้จักในนาม รอยฟอสซิล (trace fossils)) รอยฟอสซิลนี้เกิดจากสัตว์หรือพืชที่ตายแล้วถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นหินของโลกก่อนจะเกิดการเน่าเปื่อย ขั้นตอนการเกิดกระบวนการเกิดรอยฟอสซิล (fossilization) นั้นซากสัตว์หรือพืชถูกกลบในชั้นตะกอนหรือชั้นโคลนอย่างฉับพลัน ในระหว่างนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีมากมายขึ้น และระบบมีกลไกป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยอาศัยกระบวนการผันเปลี่ยนแร่ธาตุแทนที่บนซากสิ่งมีชีวิต (เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนต่างๆเกิดการสึกกร่อน-ผู้แปล)
ความพยายามในการค้นหารอยฟอสซิลจากพื้นพิภพ มีมาเกือบ 150 ปีมาแล้ว การค้นพบดังกล่าวสามารถยืนยันได้ว่า ปลาก็ยังก็เป็นปลา แมลงก็ยังคงเป็นแมลง นกก็ยังคงเป็นนก และสัตว์เลื่อยคลานก็ยังคงเป็นสัตว์เลื่อยคลานอยู่วันยังค่ำ ไม่มีรอยฟอสซิลอันใดเลยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่ง จากปลากลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ หรือจากสัตว์เลื่อยคลานกลายเป็นวิหค เป็นต้น และเรากลับไม่พบสัญญาณอันไหนเลย ที่บ่งบอกถึงสิ่งมีชีวิตสามารถสืบสกุลจากสิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่นได้ จากหลักฐานรอยฟอสซิลนี้เอง เป็นต้นเหตุหลักที่ต้อง รื้อถอนทฤษฎีวิวัฒนาการออกจากสารบบโดยทันที
นอกจากบรรยายรายละเอียดรูปแบบการเกิดสิ่งมีชีวิตแล้ว รอยฟอสซิลยังสามารถบอกความเป็นมาเป็นไปของดาวเคราะห์ดวงนี้ในครั้นอดีตกาลได้ กล่าวคือ สามารถบอกรายละเอียดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในเพลาก่อนๆได้อีกด้วย
|
Robert Hooke (เจ้าของหนังสือชื่อ Micrographia พิมพ์ปีค.ศ. 1665และ Earthquakes พิมพ์ปีค.ศ. 1668) และ Niels Stensen (อาจรู้จักในนาม Nicolus Steno) ในช่วงเวลาที่ทั้งสองต่างขะมักเขม้นศึกษารอยฟอสซิลสิ่งมีชีวิตนั้น มีนักวิจารณ์หลายคน (ในขณะนั้น-ผู้แปล) ไม่เชื่ออย่างสนิทใจถึงรอยฟอสซิลที่ค้นพบเป็นซากของสิ่งมีชีวิตในครั้นอดีต ซึ่งหัวใจหลักของการถกเถียงในสมัยนั้น เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ในเรื่องความเป็นไปได้ (มากน้อยเพียงใด-ผู้แปล) ที่รอยฟอสซิลจะกลบซากสิ่งมีชีวิตเอาไว้ แทนที่จะซักถามในประเด็นสถานที่ค้นพบ หรือถกในลักษณะทางธรณีวิทยาของมัน (ซึ่งมันสามารถเพิ่มรอยหยักในสมองมากกว่า-ผู้แปล)
ส่วนใหญ่รอยฟอสซิลมักถูกค้นพบบริเวณภูเขา (ซึ่งนักวิจารณ์ในอดีตเกิดการค้านต่อความคิดของเขา-ผู้แปล) ยกตัวอย่างเช่น เป็นไปไม่ได้เลย จะยอมรับการค้นพบรอยฟอสซิลของปลาในชั้นหินเหนือระดับน้ำทะเลขึ้นไป ซึ่ง Steno ได้อธิบาย (สาเหตุการค้นพบซากฟอสซิลในบริเวณภูเขา-ผู้แปล) ไว้ว่าความสูงเหนือระดับน้ำทะเลจะลาดต่ำลงเมื่อเวลาผ่านไป (กล่าวคือระดับน้ำทะเลในอดีตจะสูงกว่าในปัจจุบัน-ผู้แปล) หรือ Hooke ได้ให้คำอธิบายอีกทัศนะหนึ่งว่า อาจจะเป็นไปได้ในอดีตอาจจะเกิดแผ่นดินไหวเนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลจนมัน ดันพื้นดินให้สูงขึ้นกลายเป็นภูเขาขึ้นมา (จึงไม่น่าแปลกใจที่จะค้นพบซากสิ่งมีชีวิตบนภูเขาได้-ผู้แปล)
|
มีการค้นพบรอยฟอสซิลมากขึ้น
ศาสตร์ธรณีวิทยาสมัยใหม่เปิดเผยเกี่ยวกับข้อมูลเปลือกโลก ซึ่งถูกปกคลุมด้วยองค์ประกอบของเปลือกโลกแผ่นใหญ่ที่เรียกว่า “เพลท” ซึ่งเพลทแต่ละแผ่นจะเคลื่อนตัวปกคลุมพื้นผิวโลกอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นส่วนของพื้นทวีปและพื้นสมุทร เมื่อเพลทเกิดการเคลื่อนตัวอย่างรุนแรงอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงธรณีของโลกได้ เช่น เกิดการดันตัวของภูเขาใต้น้ำเนื่องจากการชนกันระหว่างพื้นทวีป เป็นต้น
รอยฟอสซิลที่อยู่ในชั้นหินที่แตกต่างกันสามารถบอกข้อมูลการดำรงของสิ่งมีชีวิตในช่วงเวลาที่ต่างกัน ซึ่งรอยฟอสซิลที่ค้นพบนี้ส่วนใหญ่ล้วนมีอายุมากว่าร้อยล้านปี
ในการวิจัยรอยฟอสซิล มักจะศึกษาชั้นหินชนิดเดียวกันและอยู่ในลำดับชั้นเดียวกัน เท่านั้น การค้นพบรอยฟอสซิลในชั้นหินแตกต่างกันนี้ สามารถบ่งบอกกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่ค้นพบต่างกันด้วย ซึ่งซากกลุ่มสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด ถูกฝังในชั้นหินที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ เรียกว่า “ลายมือชื่อ” (signature ) ฟอสซิลลายมือชื่อ (signature fossils) นี้จะมีความหลากหลายตามแต่ช่วงเวลา และพื้นที่ที่สิ่งมีชีวิตเคยอาศัยอยู่ หรือบริเวณสภาพสิ่งแวดล้อมและลักษณะตะกอนที่แตกต่างกันอาจจะค้นพบรอยฟอสซิลที่เหมือนกันภายใต้ช่วงเวลา (ทางธรณีวิทยาได้กำหนดไว้-ผู้แปล) เดียวกัน หรืออาจจะค้นพบรอยฟอสซิลที่มีลักษณะ “ลายมือชื่อ” เหมือนกันในหินที่แตกต่างกันห่างออกไปหลายกิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์นิยมจำแนกรอยฟอสซิลตามช่วงเวลาทางธรณีวิทยามากว่า (ซึ่งจะกล่าวต่อไปในฉบับหน้า-ผู้แปล)
1. Harun Yahya, "Atlas of Creation1", GLOBAL PUBLISHING, November 2008.18-23.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น